การใช้งานอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) สำหรับผู้ปฏิบัติงานในสถานที่เสี่ยง
การใช้งานอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เช่น หมวกนิรภัย, เข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัว (Full Body Harness), และสายช่วยชีวิต (Lanyard) เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในงานที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงสูง เช่น งานบนที่สูง งานในสถานที่อับอากาศ หรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากการตกหล่นของวัสดุ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมและการใช้งานที่ถูกวิธีเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้จะอธิบายวิธีการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ หมวกนิรภัย (Safety Helmet), เข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัว (Full Body Harness) และสายช่วยชีวิตแบบ 2 ตะขอ (Double Hook Lanyard)
1. หมวกเซฟตี้ CAMP Safety
หมวกเซฟตี้ เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ป้องกันการบาดเจ็บจากการกระแทกหรือการตกหล่นของวัสดุในพื้นที่ปฏิบัติงาน หมวกเซฟตี้ยี่ห้อ CAMP Safety มีการออกแบบที่เน้นความทนทานและน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยขั้นสูง เช่น งานก่อสร้าง งานอุตสาหกรรม และงานที่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บศีรษะจากวัตถุที่ตกลงมา
วิธีการใช้งาน
- ตรวจสอบหมวกก่อนใช้งาน
ก่อนใช้งานหมวกเซฟตี้ควรตรวจสอบสภาพหมวกอย่างละเอียด เช่น ตรวจดูว่ามีรอยร้าว รอยแตก หรือการเสียหายอื่นๆ หรือไม่ หากพบความเสียหายควรเปลี่ยนหมวกใหม่ทันที - ปรับขนาดหมวกให้พอดีกับศีรษะ
หมวกเซฟตี้ของ CAMP Safety มีระบบปรับขนาดที่สามารถปรับให้พอดีกับศีรษะของผู้สวมใส่ เพื่อให้หมวกไม่หลุดออกในระหว่างปฏิบัติงาน ควรปรับสายรัดคางให้กระชับ แต่ไม่แน่นเกินไป - สวมหมวกให้ถูกวิธี
การสวมหมวกนิรภัยที่ถูกต้องคือการใส่หมวกให้แน่นพอดีบนศีรษะ ไม่ให้หมวกเอนไปข้างหน้า ข้างหลัง หรือด้านข้าง และควรสวมหมวกตลอดเวลาขณะปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง - บำรุงรักษาหมวกเซฟตี้
หลังจากการใช้งาน ควรทำความสะอาดหมวกและจัดเก็บในที่แห้ง หลีกเลี่ยงการวางหมวกในที่ที่ถูกแสงแดดหรือความร้อนสูงเกินไป ซึ่งอาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
2. Full Body Harness เข็มขัดนิรภัย Singing Rock
Full Body Harness หรือเข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัว เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันการตกจากที่สูง โดยเฉพาะในงานก่อสร้าง งานปฏิบัติงานบนอาคารสูง หรือในงานที่มีความเสี่ยงต่อการพลัดตกจากที่สูง Singing Rock เป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพและความทนทาน ทำให้อุปกรณ์นี้เป็นที่นิยมในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง
วิธีการใช้งาน
- การสวมใส่
เริ่มต้นด้วยการคลายสายของ Full Body Harness ให้สามารถสวมใส่ได้ง่าย จากนั้นสวมเข็มขัดเหมือนกับการสวมใส่ชุดธรรมดา โดยให้แน่ใจว่าสายรัดผ่านไหล่ สะโพก และขาอย่างถูกต้อง สายรัดต้องไม่บิดหรือพันกัน - การปรับขนาดให้พอดี
หลังจากสวมใส่แล้ว ควรปรับสายรัดให้แน่นพอดีกับร่างกาย แต่ไม่แน่นเกินไป การปรับขนาดสายควรให้พอดีเพื่อให้ Full Body Harness ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดการตก - การตรวจสอบจุดยึด (Anchor Point)
Full Body Harness จะต้องถูกยึดกับจุดยึดที่มีความแข็งแรงเพียงพอ (Anchor Point) เพื่อป้องกันการตก ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าจุดยึดมีความปลอดภัยและรองรับน้ำหนักได้ตามมาตรฐาน - การใช้งานกับอุปกรณ์เสริม
Full Body Harness มักใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น Lanyard, Rope หรือ Karabiner เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน ตรวจสอบอุปกรณ์เสริมให้แน่ใจว่าทำงานได้อย่างถูกต้อง
3. สายช่วยชีวิต 2 ตะขอ (Lanyard)
Lanyard เป็นสายช่วยชีวิตที่ใช้ร่วมกับ Full Body Harness โดยมีหน้าที่เชื่อมต่อร่างกายของผู้ปฏิบัติงานกับจุดยึด (Anchor Point) เพื่อป้องกันการตก Lanyard แบบ 2 ตะขอเป็นอุปกรณ์ที่ให้ความสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากสามารถยึดกับจุดยึดได้ 2 จุด เพิ่มความปลอดภัยในการทำงานที่สูงหรือในพื้นที่เสี่ยง
วิธีการใช้งาน
- การเชื่อมต่อ Lanyard กับ Full Body Harness
เริ่มต้นด้วยการเชื่อมต่อ Lanyard กับ D-Ring ที่อยู่บน Full Body Harness โดยใช้ตะขอที่มีความแข็งแรงเพียงพอ ตรวจสอบว่าตะขอถูกล็อกเข้าที่อย่างแน่นหนา - การเชื่อมต่อ Lanyard กับ Anchor Point
อีกด้านของ Lanyard จะถูกเชื่อมต่อกับ Anchor Point หรือจุดยึดที่มั่นคง ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Anchor Point มีความแข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักของผู้ปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย และตะขอถูกล็อกเข้าที่อย่างแน่นหนา - การปรับระยะ Lanyard
ปรับความยาวของ Lanyard ให้เหมาะสมกับพื้นที่ทำงาน เพื่อป้องกันการตก หรือในกรณีที่เกิดการตก การปรับระยะจะช่วยลดแรงกระแทกต่อร่างกายของผู้ใช้งาน - การตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนใช้งาน
ควรตรวจสอบสภาพของ Lanyard ก่อนการใช้งานทุกครั้ง ตรวจดูว่ามีการฉีกขาด หรือสายเกิดการสึกหรอหรือไม่ หากพบข้อบกพร่องควรหยุดการใช้งานทันทีและเปลี่ยน Lanyard ใหม่ - การบำรุงรักษา
หลังการใช้งาน ควรทำความสะอาด Lanyard และจัดเก็บในที่แห้งและสะอาด หลีกเลี่ยงการวางในที่ร้อนจัดหรือโดนแสงแดดโดยตรง เพื่อยืดอายุการใช้งาน
การใช้งานหมวกเซฟตี้, Full Body Harness, และ Lanyard แบบ 2 ตะขอ เป็นการป้องกันการบาดเจ็บและการเสียชีวิตในงานที่มีความเสี่ยงสูง สิ่งสำคัญคือการใช้อุปกรณ์เหล่านี้อย่างถูกวิธี และตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ทุกครั้งก่อนใช้งาน เพื่อให้การป้องกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด